Wat Saket Ratchaworamahawihan

TEMPLE OF THE GOLDEN MOUNT BANGKOK

slide 1
slide 1
slide 1
Image Slide 2
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
(ภูเขาทอง)
Image Slide 2
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
(ภูเขาทอง)
Image Slide 2
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
(ภูเขาทอง)
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow
Shadow

“บรมบรรพต” นามพระราชทาน ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนชื่อเดิมคือ “พระเจดีย์ภูเขาทอง” แต่ชาวไทยนิยมเรียกง่ายๆกันว่าเจดีย์ภูเขาทองพระเจดีย์องค์นี้ นับเป็นพุทธสถานที่สำคัญของวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เหมือนกับพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

นับเป็นสัญลักษณ์ของวัดที่คนทั่วโลกรู้จักกันมากกว่าพุทธสถานรอบวัด 

ครั้งสมัยรัชกาลที่ ๓

พระเจดีย์ภูเขาทององค์นี้สร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวาระที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดสระเกศครั้งใหญ่นั้น ทรงมีพระราชประสงค์จะสร้างพระเจดีย์เหมือนอย่างวัดภูเขาทองที่กรุงศรีอยุธยา มีคลองมหานาคล้อมรอบวัดและเป็นคลองที่ชาวพระนครจัดเป็นที่ชุมนุมรื่นเริงลอยเรือเล่น ครั้งสมัยรัชกาลที่ ๑ เหมือนอย่างการละเล่นของชาวกรุงศรีอยุธยา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ ( ทัดบุนนาค ) ครั้งมีตำแหน่งเป็นพระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษาเป็นแม่กองในการสร้าง

แรกสร้างพระเจดีย์ภูเขาทองนั้นรูปแบบเป็นปรางค์องค์ใหญ่ฐานสี่เหลี่ยมแบบย่อไม้สิบสองอันเป็นพุทธศิลปะสถาปัตยกรรมที่นิยมสร้างในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยาและต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ฐานกว้าง ๕๐ วา หรือ ๑๐๐ เมตร สูง ๙ วา หรือ ๑๘ เมตร โดยขุดรากลึกลงไปในดิน ( ริมคลองเป็นดินโคลน ) วางท่อนซุงเรียงเป็นแพอัดแน่นอันเป็นวิธีการสร้างฐานรากเหมือนตอกเสาเข็มแล้วถมดิน และหินศิลาแลง จากนั้นก่ออิฐถือปูนครอบไว้ชั้นนอก ปรากฏว่าส่วนฐานล่างองค์พระเจดีย์รับน้ำหนักดิน หิน และศิลาแลงที่ถมลงมาไม่ได้ ส่วนบนยอดเจดีย์จึงทรุดลงจนไม่สามารถแก้ไขได้และมิได้สร้างต่อให้แล้วเสร็จ ครั้นถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาศรีพิพัฒน์ (แพ บุนนาค) บุตรของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติเป็นแม่กองซ่อมสร้างพระเจดีย์ภูเขาทองที่ทิ้งค้างไว้ใน รัชกาลที่ ๓ ต่อโดยซ่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขพระปรางศ์องค์ใหญ่ทำเป็นภูเขาทองทำบันไดเวียนสองข้างจนถึงยอดมีส่วนหนึ่งทำบันไดทอดตรงลงมา ( คุณอเนก – นาวิกมูล ได้เขียนเล่าเรื่องบันไดตรงส่วนหนึ่งของทางขึ้นภูเขาทองซึ่งรับคำอธิบายจากอาจารย์จุลทรรศน์ พยายมรานนท์ ว่าแต่ก่อนเป็นทางพระสงฆ์เดินลงมารับบาตรจากพุทธบริษัทในเทศกาลตักบาตรเทโว เมื่อมีการซ่อมบูรณะในรัชกาลต่อมาจึงได้รื้อบันไดตรงทำเฉพาะบันไดเวียนที่ปรากฏในปัจจุบัน ) 

ครั้นถึงเดือน ๖ ปีฉลู (ประมาณเดือนพฤษาคม) พ.ศ.๒๔๐๘ รัชกาลที่ ๔ โปรดเกล้าฯ ให้ก่อพระเจดีย์ทรงระฆังไว้บนยอดเขาหนึ่งองค์ ได้เสด็จฯวางคิลาฤกษ์และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มี “ละครใน”( ละครที่ผู้หญิงแสดงล้วนเป็นมหรสพในราชสำนัก ) เป็นมหรสพฉลองเมื่อแล้วเสร็จพระราชทาน

ในคัมภีร์สุริยยาตร์แม้การสร้างสถูปเจดีย์ทรงพอพระราชหฤทัยในแบบอย่างเจดีย์ทรงระฆังเหมือนกับพุทธศิลป์สมัยกรุงสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยาดังนั้นพระพุทธเจดีย์ที่โปรดเกล้าฯให้สร้างปรากฏเป็นรูปแบบของพระรัตนเจดีย์ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ครั้นถึงเดือน ๖ ปีฉลู ( ประมาณเดือนพฤษกาคม ) พ.ศ.๒๔๐๘ พระพุทธเจดีย์ที่โปรดเกล้าฯ ให้สร้างปรากฏเป็นรูปแบบของพระรัตนเจดีย์ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระปฐมเจดีย์ที่เมืองนครปฐม
และพระเจดีย์ภูเขาทองที่วัดสระเกศ การบูรณะซ่อมพระเจดีย์ภูเขาทองครั้งที่สองในสมัยรัชกาลที่ ๕ อันเป็นการช่อมเสริมในส่วนที่ยังไม่เรียบร้อย ต่อจากสมัยรัชกาลที่ ๔ เมื่อแล้วเสร็จในวันศุกร์ เดือนยี่ ขึ้น ๑ ค่ำ ปีฉลู ( เทียบปฏิทินเก่าตรงกับ วันที่ ๔ มกราคม พ.ศ. ๒๔๒๙ )

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินประกอบพระราชพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่บูชาไว้ในพระบรมมหาราชวังประดิษฐานในพระเจดีย์ภูเขาทองเป็นครั้งแรกปี พ.ศ. ๒๔๔๐ รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯกำหนดให้มีงานนักขัตฤกษ์ฉลองพระเจดีย์ภูเขาทองและพระอารามหลวงวัดสระเกศ ระหว่างขึ้น ๘ – ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ เป็น ประจำทุกปี ต่อมาวันอาทิตย์ ที่ ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๒ รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธกรมขุนนครราชสีมาเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับการอัญเชิญจากเมืองกบิลพัสดุ์ ประเทศอินเดีย ในสมัยรัชกาลที่ ๕

มาสมัยท่านเจ้าประคุณสมเด็จสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มหาเถสมณศักดิ์ เป็นพระธรรมวโรดม เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ทรงมีบัญชาให้กรมชลประทานเป็นแม่กองทำการซ่อม ครั้งใหญ่ระหว่างปีพ.ศ.๒๔๙๓-๒๔๙๗ โดยให้หยุดงานนักขัคฤกษ์ประจำปีไว้ชั่วคราว การซ่อมใหญ่ได้แก่องค์พระเจดีย์ภูเขาทองที่ทรุดเอียง ซ่อมเสริมเหล็กคานคอนกรีต กำแพงรอบนอก และบันได ตัดโค่นต้นไม้ที่รกทึบให้โล่งเดียน เมื่อแล้วเสร็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ เสด็จพระราชดำเนินยัง มณฑลพิธี ณ บรมบรรพตทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระเจดีย์ยอดพระมณฑป ครั้งที่  ๓ เมื่อวันที่ ๒๒ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๗ และเปิดให้มีงานเทศกาลนมัสการตามประเพณีโบราณฉลองกันตลอดมา