Wat Saket Ratchaworamahawihan

TEMPLE OF THE GOLDEN MOUNT BANGKOK

slide 1
slide 1
slide 1
Image Slide 2
พระอัฏฐารสศรีสุคตทศพลญาณบพิตร
Image Slide 2
พระอัฏฐารสศรีสุคตทศพลญาณบพิตร
Image Slide 2
พระอัฏฐารสศรีสุคตทศพลญาณบพิตร
previous arrowprevious arrow
next arrownext arrow
Shadow

พระวิหาร เป็นพุทธสถานสร้างตามคตินิยม เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญของวัด พระวิหารหลังใหญ่ข้างพระอุโบสถนี้ สร้างด้านหน้าหันไปทางทิศเหนือ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างหลังคาสูงเสมอพระอุโบสถ ซึ่งมีสถาปัตยกรรมแบบเดียวกัน หลังคามุงกระเบื้องเคลือบ มีช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ หน้าบันสลัก กนกรายก้านคด ประดับกระจก นับเป็นพุทธสถสถาปัตยกรรม ที่กลมกลืนกับหมู่พุทธสถานในกำแพงแก้ว พระวิหารหลังนี้มี 2 ห้อง พระราชประสงค์ของรัชกาลที่ 3 เพื่อประดิษฐานพระอัฏฐารส และพระศาสดาที่อัญเชิญมาจากเมืองพิษณุโลก ภายในพระวิหารห้องใหญ่ด้านหน้าประดิษฐาน พระอัฏฐารสศรีสุคตทศพลญาณบพิตร พระพุทธรูปปางห้ามญาติประทับยืน ศิลปะสกุลช่างสุโขทัยตอนต้น มีอายุเก่ากว่า 700 ปี ขนาดสูง 5 วา 1 ศอก 10 นิ้ว (ประมาณ 10.35 เมตร) ซึ่งรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญมาจากวัดวิหารทอง เมืองพิษณุโลก ในพระนิพนธ์ของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ บันทึกถึงการอัญเชิญพระอัฏฐารสฯ องค์นี้ว่าน่าเป็นปีพ.ศ 2372 อันเป็นคราวเดียวที่สมเด็จฯ พระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ ได้อัญเชิญพระพุทธชินสีห์ จากเมืองพิษณุโลก มาประดิษฐานไว้ที่วัดบวรนิเวศ เกร็ดประวัติบันทึกไว้ว่า ในคราที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนิน พระราชทานพระกฐินที่วัดสระเกศนั้น พระองค์ท่านเสด็จฯ ทางชลมารคผ่านคลองมหานาค ขึ้นประทับท่าน้ำทิศเหนือ และเสด็จเข้าพระวิหาร ส่งจุดธูปเทียนถวายพระอัฏฐารสฯ ก่อนจึงเสด็จเข้าพระอุโบสถฯ   ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ อัญเชิญหลวงพ่อดุสิต พระพุทธรูปปางมารวิชัย พระพุทธศิลป์ สกุลช่างรัตนโกสินทร์ ขนาดหน้าตักกว้าง 1 เมตร มาประดิษฐานในพระวิหารอีกห้องหนึ่ง ทางด้านหลัง

ประวัติหลวงพ่อดุสิต

หลวงพ่อดุสิต เป็นพระประธานประจำพระอุโบสถวัดดุสิตมาก่อน วัดดุสิตนั้น เดิมตั้งอยู่ในเขตพระราชฐาน พระราชวังสวนดุสิต อยู่ใกล้กันกับวัดแหลม ที่มีชื่อเรียกว่า วัดเบญจมบพิตร เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างพระราชวังดุสิต และสวนดุสิต จำต้องขยายบริเวณเกินเนื้อที่วัดเบญจมบพิตร และวัดดุสิตทั้ง 2 วัด จึงทรงพระราชปรารภ สร้างวัดชดใช้วัดทั้งสองขึ้น วัดหนึ่ง คือ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม แล้วจึงได้โปรดให้อัญเชิญพระประธานในพระอุโบสถ วัดดุสิต ไปประดิษฐานอยู่ในห้องด้านหลัง พระวิหารพระอัฏฐารส ซึ่งว่างอยู่ ภายหลังเรียกกันว่า “หลวงพ่อดุสิต” ประดิษฐานอยู่ตลอดมาจนถึงทุกวันนี้